วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิธีการทำตลาดระหว่างประเทศ

เสนอแนะของร้าน " ฟูจิ "




     คนส่วนใหญ่ที่เลือกเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น คาดหวังที่จะได้ทานอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศญี่ปุ่น แต่มีรสชาติอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ฟูจิจึงควรมีการรักษาคุณภาพสินค้าและมาตรฐานของทางร้านเสมอ
     คนส่วนใหญ่เลือกดูที่ราคาสมเหตุสมผล อาหารญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันมาเนิ่นนานในเรื่องความสดใหม่ และรูปลักษณ์ที่น่าทาน แต่สิ่งปัญหาอย่างหนึ่งของฟูจิคือ มีราคาแพงอย่างไม่สมเหตุสมผล เป็นผลให้ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในอดีต ถูกจำกัดเพียงเฉพาะไม่กี่กลุ่มที่มีกำลังซื้อ แต่เมื่อฟูจิกำหนดตำแหน่งของตัวเอง ให้มุ่งสู่ความเป็น Mass ฟูจิจึงควรต้องมีการปรับเรื่องราคาให้มีความเหมาะสม กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม

     สิ่งที่ฟูจิต้องยึดถือไว้เสมอคือ การทำให้ลูกค้าเดินออกจากร้านไปด้วยความรู้สึกว่า อิ่ม อร่อยอย่างคุ้มค่า
     เมื่อหาจุดสำเร็จเจอต้องรีบต่อยอดความสำเร็จนั้นขึ้นไปให้สูงกว่าเดิมก่อนที่คู่แข่งจะขยับตัวและแบ่งปันความสำเร็จนั้น และรีบขยายตลาดให้มากขึ้นเพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน





เสนอแนะของร้าน " MK "


     ควรมีการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า สร้าง Personality และที่สำคัญในธุรกิจบริการจะต้องมี
Service mind และมีความโปร่งใส เช่น กุ้งที่ลูกค้ารับประทานนั้นใช้กุ้งอะไร มาจากไหน อันนี้ต้องตอบได้ และสามารถพาลูกค้าไปดูโรงงานได้
     การบริการเป็นหัวใจสำคัญ ต้องสร้างความพอใจให้ลูกค้า ถ้าลูกค้าไม่พอใจต้องน้อมรับ จะต้องมีการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาตอบสนองผู้บริโภคได้

     เป็นโอกาสของธุรกิจไทยและเป็นความท้าทาย โดยโอกาสในด้านบวกของการเปิดตลาดของธุรกิจไทย เปิดโอกาสการสร้างแบรนด์ เปิดโอกาสการหาแหล่งเงินทุนของแต่ละประเทศเป็นโอกาสที่ดีของการโปรโมตประเทศไทย และนำเงินตราสู่ประเทศไทย






วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิเคราะห์ SWOT Analysis



Strength
อุตสาหกรรมผ้าผืนและด้ายของไทยมีอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นนำเกื้อหนุน ขณะเดียวกันก็มีอุตสาหกรรมปลายนำอย่างเสื้อผ้าสำเร็จรูปรองรับอยู่
ความร่วมมือภายในอุตสาหกรรมผ้าผืนและด้ายค่อนข้างดี มีการพัฒนาเทคนิคการผลิตและถ่ายทอดองค์ความรู้ร่วมกันภายใต้กิจกรรมของสถาบันและสมาคมการค้าต่างๆ
ผู้ประกอบการผ้าผืนและด้ายของไทยได้รับการยอมรับด้านคุณภาพจากคู่ค้าในต่างประเทศ
Weakness
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ละเลยการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองจึงยังต้องพึงพิงเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
ขาดบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะ อาทิ วิศวกร ช่างเทคนิค และนักออกแบบ
อุตสาหกรรมผ้าผืนและด้ายยังคงต้องพึงพาการนำเข้าวัตถุดิบบางชนิดจากต่างประเทศ อาทิ ฝ้าย ซึ่งการเพาะปลูกในประเทศไม่เพียงพอต่อการใช้
ผู้ผลิตบางรายของไทยยังเน้นแข่งขันด้านราคา ทำให้เสียเปรียบคู่แข่งอย่างจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ซึ่งผลิตสินค้าปริมาณมาก เนื่องจากมีตลาดขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศรองรับ
Opportunity
เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้ยอดจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อเนื่องทำให้มีความต้องการนำเข้าผ้าผืนและด้ายเพื่อนำไปผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
• AFTA ส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเดิมลดลงเหลือร้อยละ 0 ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งออกผ้าผืนและด้ายของไทย เนื่องจากประเทศในอาเซียนเป็นตลาดส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวสำคัญอันดับ 1 ของไทย
Threat
วิกฤตหนี้ของกรีซที่อาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ใน EU อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการส่งออกด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ของไทย
ราคาวัตถุดิบฝ้ายปรับสูงขึ้นจนปัจจุบันมาอยู่ที ระดับ 80 เซนต์ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40จากราคาเฉลี่ย  ปี 2552 ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตผ้าผืนสูงขึ้น


ที่มา..
http://www.exim.go.th/doc/newsCenter/10303.pdf

วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แนวโน้มการค้าและการผลิตของสินค้าสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในตลาดโลก..

        ผลผลิตของสินค้าสิ่งทอจากสหรัฐอเมริกาลดลง 2.6% ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2545 ในขณะที่ผลผลิตของสินค้าเครื่องแต่งกายลดลง 7.4%  และการส่งออกของสหรัฐฯลดลง แม้ว่าค่าเงินสกุลดอลล่าร์จะอ่อนค่าลงแต่ความต้องการสินค้าจากตลาดในประเทศลดลงเช่นโดยผลกระทบต่อราคาเครื่องนุ่งห่มในประเทศให้ลดลงมาโดยตลอดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา   การนำเข้าของสหรัฐฯยังคงผันผวน โดยเฉพาะการนำเข้าจากประเทศจีนเนื่องมาจากการจัดสรรโควต้าเพื่อการเปิดการค้าเสรี  นอกจากนี้ความความผันผวนของความต้องการและการแข่งขันจากประเทศจีนส่งผลกระทบต่อการส่งออกจากประเทศเม็กซิโกด้วย   สำหรับอุตสาหกรรมของประเทศอาร์เจนตินาได้รับผลกระทบด้วยแม้ว่าค่าเงินสกุลเปโซจะลดลง นอกจากนี้วิกฤตการณ์ในประเทศอาร์เจตินายังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศบราซิล  ยอดขายเพื่อการส่งออกของโคลัมเบียเพิ่มขึ้นในตลาดแอนเดียนแต่การส่งออกไปสหรัฐฯและสหภาพยุโรปกลับลดลง


ทิศทางสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศมาเลเซีย

        อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในประเทศมาเลเซียมีการผลิตแบบครบวงจร ซึ่งได้แก่ การผลิตเส้นใยโพลิเมอร์ การผลิตเส้นใยประดิษฐ์ การปั่นด้าย การทอ การถัก การพิมพ์ การย้อม การตกแต่งสำเร็จและการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป  การส่งออกมีการเติบโตอย่างมีนัยตลอดมา  โดยในปี 2544  การส่งออกเส้นด้ายและผ้าผืนมีมูลค่า 4,011 ล้านดอลล่าร์มาเลเซีย ( 1,056 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ)   ในขณะที่ยอดขายของเครื่องแต่งกายเติบโตถึง 7,868 ล้านดอลล่าร์มาเลเซียรัฐบาลมาเลเซียได้มีการพัฒนาสาธารณูปโภคซึ่งเป็นการดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุน  ไม่ว่าจะเป็น บริษัท Penfabric Textile Group  ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ของวงการในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และบริษัทในเครือของประเทศญี่ปุ่น คือ บริษัท โทเร ซึ่งผลิต เส้นด้าย ผ้าผืนและเส้นใยโพลิเอสเตอร์สำหรับการผลิตเส้นด้าย  บริษัท Hualon ของประเทศไต้หวัน ซึ่งผลิตเส้นด้ายและผ้าผืนจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์ทั้งสั้นและยาว
        ซึ่งโรงงานในประเทศมาเลเซียได้เตรียมความพร้อมสำหรับการยกเลิกการกำหนดโควต้าส่งออกของสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในปี 2548 เพื่อให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมของประเทศมาเลเซียจะสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก  รัฐบาลมาเลเซียได้มีการส่งเสริมให้มีการวัดผลประสิทธิภาพในการผลิต  ความสามารถในการผลิต ในขณะที่มีการเน้นการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น  สำหรับโรงงานต่างๆเองกำลังมีการส่งเสริมให้มีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพตลอดจนการลดต้นทุนในการผลิต  นอกจากนี้โรงงานต่างๆมีแนวคิดที่จะยกระดับสินค้าของตนเองให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและเป็นการขยายฐานของลูกค้าไปพร้อมกัน

ที่มา..
www.thaitextile.org/dataarticle/textile-outlook/sep-oct-45.doc

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Malaysia; مليسيا (มาเลย์)

การแต่งกายของชาวมาเลเซีย

       มาเลเซียเป็นชื่อใหม่ (เมื่อ .. 1963) ของประเทศมาลายู เมืองหลวง คือ กัวลาลัมเปอร์สหพันธ์มาเลเซียเป็นดินแดนที่มีชนหลายภาษาอาศัยรวมกัน เช่น มลายูแท้ จีน อินเดีย ปากีสถานยูเรเซียน ลังกา อินโดนีเซีย และชาวเขาการทอผ้าในมาเลเซียมีมากแถบกลันตัน และตรังกานู ซึ่งเป็นผ้าที่ทอโดยสอดไหมเงินและทองลงในเนื้อไหมตามแบบผ้าทอในอินเดีย พวกช่างทอผ้าในมาเลเซียเป็นพวกที่อพยพมาจากเกาะสุมาตรา

ผู้หญิง     นุ่งโสร่งปาเต๊ะสีสดมีลวดลายดอกดวงงาม สวมเสือ้คอยูแขนยาวถึงข้อมือปล่อยชายเสือ้ไว้นอกโสร่ง บางคนจะมีผ้าบาง คลุมศีรษะ คลุมไหล่ ชาวมาลายูชอบใช้เสือ้ผ้าสีสดใสมีลวดลาย ใบไม้ดอกไม้โต สลับสีกัน ชาวจีนแต่งกายแบบจีนเรียกว่า กี่เพ้าหรือฉ่งชำทำด้วยผ้าเป็นดอกดวง ฉูดฉาด
  
ผู้ชาย         นุ่งโสร่งเป็นตา และสวมเสือ้แขนยาว บางคนสวมหมวก ใช้ผ้าโพกศีรษะ คนแก่มักมีผ้าห้อยไหล่



ที่มา..

                                   

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

" การตลาดระหว่างประเทศ กับ การค้าระหว่างประเทศ "

การตลาดระหว่างประเทศ 


               คือ การทำธุรกิจค้าขายอันเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและนำเสนอคุณค่าที่อยู่ในรูปของสินค้าและบริการให้กับลูกค้าข้ามพรมแดนทางรัฐศาสตร์จากประเทศหนึ่งสู่ตลาดระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อการหาตลาดใหม่ เพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดหรือเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในตลาดระหว่างประเทศ โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือ ธุรกิจต้องการรายได้ที่เป็นเงินจากลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศ
                การตลาดระหว่างประเทศจึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่าการตลาดภายในประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้นธุรกิจจะประสบความสำเร็จในตลาดระหว่างประเทศได้นั้น การตลาดระหว่างประเทศไม่ใช่เพียงแค่การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน การตลาดระหว่างประเทศไม่ใช่แค่การดำเนินการทางการตลาดโดยใช้หลักการตลาดพื้นฐานทั่วไป ที่ธุรกิจเคยใช้มาในตลาดภายในประเทศแล้วประสบความสำเร็จ เช่น การใช่ส่วนประสมทางการตลาด (Product, Price, Place and Promotion) ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในตลาดระหว่างประเทศ บางตลาดเลยก็เป็นได้ เนื่องจากตลาดภายในประเทศกับตลาดระหว่างประเทศจะมีความแตกต่างของปัจจัยต่างๆ อยู่เป็นอย่างมาก ดังนั้นสิ่งที่นักการตลาดระหว่างประเทศต้องระลึกถึงเสมอก็คือ วิธีที่จะสร้างความสำเร็จทางการตลาดทั้งตลาดภายในประเทศรวมถึงตลาดระหว่างประเทศนั้น นักการตลาดต้องค้นหาวิธีที่จะทำให้ธุรกิจสามารถสร้างความพึงพอใจให้ตลาดหรือธุรกิจต้องค้นหาวิธีที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ธุรกิจจึงจะพบกับความสำเร็จทางการตลาด
              
ปัจจัยสำคัญในการทำการตลาดระหว่างประเทศ ( International Marketing) ประกอบด้วย


                   1. การค้นหา พิสูจน์ วิเคราะห์และวิจัย เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศธุรกิจที่ต้องการจะดำเนินการในตลาดระหว่างประเทศต้องค้นหา และวิจัยเพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศให้ได้ หลังจากนั้นธุรกิจต้องทำความเข้าใจกับความต้องการของลูกค้าว่าธุรกิจมีความสามารถจะตอบสนองความต้องการนั้นหรือไม่ เพียงใด นอกจากนี้ธุรกิจจะต้องเข้าใจถึงลักษณะความเหมือนและลักษณะความแตกต่างของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในตลาดระหว่างประเทศแต่ละแห่ง รวมไปถึงธุรกิจต้องทำความเข้าใจถึงองค์ประกอบอื่นๆ ของตลาดระหว่างประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการทางการตลาดของธุรกิจ
                 2.สร้างความพึงพอใจและความพยายามในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศหลังจากที่ธุรกิจสามารถค้นพบความต้องการของผู้บริโภคที่อยู่ในตลาดระหว่างประเทศได้แล้วสิ่งที่ธุรกิจต้องดำเนินการก็คือ ธุรกิจจะต้องค้นหาว่าธุรกิจจะสร้างคุณค่าจากการผลิตสินค้าและบริการอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการโดยธุรกิจจะต้องดำเนินการปรับปรุงส่วนประสมทางการตลาดอะไรบ้าง ตลอดจนธุรกิจจะวางแผนการตลาดเพื่อให้สามารถสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศ นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ธุรกิจจะไม่ลืมคือการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศนั้นธุรกิจต้องสามารถสร้างผลกำไรได้ด้วยเพื่อธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไป
3. ขั้นตอนการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่งภายหลังที่ธุรกิจตัดสินใจที่จะดำเนินธุรกิจในตลาดระหว่างประเทศ ธุรกิจจะต้องพบกับการ แข่งขันทางด้านการตลาดที่รุนแรง โดยธุรกิจจะต้องแข่งขันกับธุรกิจท้องถิ่นที่ดำเนินธุรกิจอยู่เดิม ซึ่งธุรกิจท้องถิ่นดังกล่าวอาจเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งเนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เป็นธุรกิจที่มีรัฐบาลท้องถิ่นเป็นเจ้าของหรือเป็นธุรกิจที่รัฐบาลท้องถิ่นเป็นผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ธุรกิจยังต้องแข่งขันกับธุรกิจข้ามชาติอื่นๆ ที่ต้องการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งธุรกิจข้ามชาติเหล่านี้มักเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ มีความพร้อมและมีความแข็งแกร่ง ดังนั้นธุรกิจที่จะต้องการจะดำเนินการทางการตลาดในตลาดระหว่างประเทศต้องมีความพร้อมและมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้
4.ขั้นตอนการประสานงานการดำเนินการทางการตลาดให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางการตลาดในตลาดระหว่างประเทศธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จในตลาดระหว่างประเทศ ธุรกิจจะต้องสามารถปรับการดำเนินการทางด้านต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เช่นธุรกิจจะต้องมีการจัดองค์กรใหม่หรือจัดรูปแบบการบริหารจัดการใหม่ เนื่องจากในตลาดระหว่างประเทศนั้นธุรกิจจะต้องพบกับความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินการด้านต่างๆ เช่นด้านการประสานงาน ด้านการบริหารงานของฝ่ายต่างๆ ด้านการทางการตลาด ด้านการคมนาคม ซึ่งความยุ่งและความซับซ้อนที่กล่าวมาจะทำให้ธุรกิจจะต้องมีการจัดองค์ประกอบให้มีความเหมาะสม
5. ขั้นตอนที่ธุรกิจต้องเรียนรู้และต้องทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในตลาดระหว่างประเทศตลาดระหว่างประเทศแต่ละแห่งจะมีความแตกต่างกันในด้านต่างๆ เช่น ความแตกต่างทางด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ความแตกต่างทางสภาพเศรษฐกิจ ความแตกต่างทางการเมือง ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความแตกต่างของสภาพทางการตลาด ความแตกต่างของพฤติกรรมผู้บริโภค ความแตกต่างทางด้านปัจจัยพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภคและความแตกต่างของระบบการเงินการธนาคาร เป็นต้น ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ธุรกิจระหว่างประเทศต้องเรียนรู้และสร้างความคุ้นเคยเพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดได้เหมาะสมและสามารถหลีกเลี่ยงการดำเนินการทางการตลาดที่ผิดพลาดซึ่งอาจจะส่งผลทางด้านลบต่อสินค้าและธุรกิจ




การค้าระหว่างประเทศ


การค้าระหว่างประเทศหมายถึง การแลกเปลี่ยนสินค้า และการบริการระหว่างประเทศ ประเทศใดที่จะพยายามผลิตสินค้าและบริการทุกประเภทโดยไม่มีการนำเข้าหรือส่งออก ประเทศนั้นจะพัฒนาได้ช้า และมาตรฐานการครองชีพของประชาชนจะต่ำ ถ้าพิจารณาในแง่ของบุคคลจะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น กล่าวคือ ถ้าบุคคลพยายามปลูกข้าว ปลูกผัก ปลูกผลไม้ เลี้ยงสัตว์ไว้บริโภคเอง ฟอกหนังสัตว์และเย็บรองเท้าไว้ใช้เอง ปลูกฝ้าย ทอผ้า  เย็บเสื้อผ้าเอง มาตรฐานการครองชีพของประชาชนนั้นจะต่ำมาก เพราะแต่ละประเทศมีทรัพยากร ความชำนาญแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคลหรือประเทศ การดำเนินนโยบายช่วยตนเองอย่างสมบูรณ์จึงเป็นไปได้ยากในทาง
ปัจจุบันนี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จำเป็นต้องติดต่อพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน  ประเทศใดที่พยายามจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศดำเนินนโยบายปิด จะพบว่าการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั้นจะเชื่องช้าและมาตรฐานการครองชีพของประชาชนจะอยู่ในระดับต่ำประชาชนต้องบริโภคสินค้าและบริการที่ผลิตได้ในประเทศเท่านั้น  ไม่มีโอกาสที่จะบริโภคสินค้าและบริการที่จำเป็นในการครองชีพ


สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดการค้าระหว่างประเทศ
1. ปริมาณและชนิดของปัจจัยการผลิต  การค้าระหว่างประเทศ เกิดขึ้นเนื่องจากประเทศต่างๆ มีปัจจัยหรือทรัพยากรการผลิตในปริมาณไม่เท่ากัน หรือไม่เหมือนกัน ปัจจัยการผลิตใด  ถ้ามีมากจะมีผลทำให้ราคาปัจจัยนั้นต่ำและจะส่งผลทำให้ต้นทุนการผลิต และราคาสินค้าต่ำลงไปด้วย

2. ความเหมาะสมของปัจจัยการผลิต  ปัจจัยการผลิตมิได้มีคุณสมบัติเหมือนกันทั้งหมด เช่น ประเทศที่มีแรงงานมาก มิได้หมายความว่า จะต้องสามารถผลิตและส่งออกสินค้าทุกชนิดที่เน้นแรงงาน สินค้าบางชนิดต้องการแรงงานที่มีประสิทธิภาพ หรือความชำนาญเป็นพิเศษ
3. ปริมาณการผลิต  การผลิตในปริมาณมาก จะมีผลทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลง แต่การผลิตในปริมาณมาก ๆ นั้น จะต้องมีตลาดรองรับผลผลิต ตลาดภายในประเทศ อาจจะมีขนาดไม่ใหญ่พอที่จะรองรับผลผลิตทั้งหมดได้ จึงต้องมีตลาดต่างประเทศไว้รองรับผลผลิตส่วนเกิน
4. ต้นทุนการขนส่ง ค่าขนส่งวัตถุดิบ และค่าขนส่งสินค้าสำเร็จรูป  เป็นต้นทุนส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของสินค้า ดังนั้นความแตกต่างในต้นทุนการขนส่งจะก่อให้เกิดความแตกต่างในราคาสินค้าเปรียบเทียบ ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งการค้าระหว่างประเทศ



ที่มา...
www.ba.ru.ac.th/KM/.../การตลาดระหว่างประเทศ.doc







วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

กลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้งสถานประกอบการ


          ปัจจุบันการเลือกทำเลที่ตั้งของธุรกิจขนาดย่อมเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มีผลต่อความสำเร็จขององค์การ และมีความสำคัญประการหนึ่งสำหรับ ผู้ประกอบการที่ต้องคำนึงถึง เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตและการดำเนินงาน การตลาด และ ต้นทุนของกิจการ แม้ว่าการตัดสินใจเลือกทำเลที่ตั้งจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักก็ตามธุรกิจแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน อีกทั้งมีกลยุทธ์และเป้าหมายที่ไม่เหมือนกันปัจจัยและวิธีการที่นำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกทำเลที่ตั้งจึงต้องแตกต่างไปด้วย เพราะมีผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ความได้เปรียบในการแข่งขัน ตลอดจนความอยู่รอดของธุรกิจและเมื่อทำการตัดสินใจ ไปแล้ว 


          ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องมีความระมัดระวังในการตัดสินใจเลือกทำเลที่ตั้งของธุรกิจด้วยความรอบคอบ เพราะสิ่งเหล่านั้นมีผลต่อความสำเร็จและความล้มเหลวของธุรกิจด้วยเช่นกัน 

การวางแผนเลือกที่ตั้ง [Location Planning]

1. ที่ตั้ง [Location]
2. บทบาทที่ตั้งต่อการดำเนินงาน
3. ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกทำเลที่ตั้ง
4. ขั้นตอนการเลือกที่ตั้ง
5. การคำนวณระยะทางในการขนส่ง
6. วิธีจุดศูนย์ดุล
7. การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน
8. กลยุทธ์ในการเลือกที่ตั้งสถานประกอบการด้านบริการ

ที่ตั้ง [Location]

 
หมายถึง สถานที่สำหรับประกอบกิจกรรม ทางธุรกิจขององค์การ เช่น โรงงาน โกดัง สินค้า สำนักงานใหญ่ หรือสาขา เป็นต้น ที่ตั้งจะมีความสำคัญต่อการผลิตการดำเนินงานขององค์การ การเลือกที่ตั้งจำเป็นกระบวนการในการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกำหนดสถานที่ที่ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพิจารณาต้นทุน รายได้ ความสัมพันธ์ที่มีต่อบุคลากร ลูกค้า และผู้ขายวัตถุดิบ ตลอดจนสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน

ความสำคัญของทำเลที่ตั้ง

          ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญ(Key Success Factor) ต่อความสำเร็จของธุรกิจค้าปลีกขนาดย่อม กล่าวคือผู้ประกอบการท่านใดมีทำเลดีถือว่าได้เปรียบคู่แข่งขันโดยผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละประเภทจะใช้ทำเลที่ตั้งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจด้วย      
             
       ถ้าเป็นธุรกิจประเภทหาบเร่แผงลอยการเลือกทำเลที่ตั้งเป็นกระบวนการที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาไม่หยุดอยู่กับที่โดยที่ไม่ได้สิ้นสุดเมื่อธุรกิจดำเนินงาน แต่จะมีความต่อเนื่องกันไปตลอดชีวิตของธุรกิจ ท่านใดจะใช้วิธีการค้าแบบนี้ต้องเลือกกลยุทธ์ในการเลือกว่าที่สถานที่ใดน่าจะขายอะไรดีเช่น  ตั้งโต๊ะขายปากกาดินสอบริเวณสนามสอบ  วางแผงขายผลไม้ในตลาด  เข็นรถขายข้าวเหนียวหมูย่างในเวลาเช้าหน้าออฟฟิต  ซึ่งต้องสามารถตอบสนองข้อกำหนดทางด้านทำเลที่ตั้งของธุรกิจได้ดีที่สุดและส่งผลสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมและสภาพของธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

ตัวอย่างเช่น



เดอะมอลล์ท่าพระ

           เดอะมอลล์ เป็นห้างสรรพสินค้าในประเทศไทย ของเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป มีสาขาหลายแห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สาขา บางกะปิ ท่าพระ งามวงศ์วาน บางแค รามคำแหง นครราชสีมา นอกจากนี้ เอ็มโพเรี่ยม และ สยามพารากอน ก็เป็นธุรกิจในเครือ นอกจากนี้ในบางสาขายังมีสวนน้ำด้วย

           เดอะมอลล์สาขาแรก เปิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2524 บริหารงานโดยศุภชัย อัมพุช เจ้าของธุรกิจอาบอบนวดหลายแห่งบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ปัจจุบันเดอะมอลล์บริหารงานโดยสุรัตน์ อัมพุช และศุภลักษณ์ อัมพุช บุตรสาวของศุภชัย







ปัจจัยสำคัญในการเลือกทำเลที่ตั้ง

          1. ความนิยมส่วนตัวของผู้ประกอบการ อาจมีทัศนคตินิยมชมชอบบางทำเลเป็นพิเศษ เช่น เป็นท้องถิ่นกำเนิดมีเพื่อนฝูงญาติมิตรช่วยอุดหนุนกิจการทำให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย
ชอบเมืองเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศสงบ ความนิยมส่วนตัว เป็นต้น

          2. ความเหมาะสมกับประเภทของธุรกิจ  ธุรกิจการผผลิตควรอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ทำให้ต้นทุนรวมในระยะยาวต่ำที่สุด แต่สำหรับธุรกิจการค้าปลีกและการบริการทำเลที่ตั้งที่ดีต้องให้ความสะดวกแก่ลูกค้ามากที่สุด การคมนาคมและการอยู่ในย่านชุมชนเป็นสิ่งสำคัญมาก

          3. การแข่งขันของธุรกิจประเภทเดียวกัน การมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับคู่แข่งเป็นสิ่งที่ลดทอนรายได้ของกิจการ เพราะลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจหรือเลือกอุดหนุนร้านของคู่แข่งได้ไม่ยาก ยิ่งถ้ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีจำนวนจำกัด ผู้ประกอบการควรแน่ใจว่าไม่ได้ดำเนินธุรกิจแข่งขันกับผู้อื่น

          4. การคมนาคมและจราจร สำหรับธุรกิจการค้าปลีกและการบริการจะต้องเน้นความสะดวกในการสันจรของลูกค้า ซึ่งต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วยอย่างรอบคอบในเรื่องการจราจรขาเข้า-ขาออกที่จอดรถ ความหนาแน่นของการจราจร การเดินรถทางเดียว สะพานลอยหรือทางม้าลายข้ามถนน ฯลฯ ประกอบด้วย เพราะบางแห่งดูเหมือนจะสะดวกแต่ไม่ใช่ทำเลที่ดี

          5. ต้นทุนของทำเลที่ตั้ง จะต้องคำนึงถึงเงินทุนที่มีอยู่ การกู้ยืมเพิ่มเติมที่จำเป็น งบกระแสเงินสดในช่วงที่มีการผ่อนชำระเงินกู้ ตลอดจนสภาพคล่องของกิจการ เพราะการกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เช่นนี้เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการชำระคืนที่ยาวนาน แต่ถ้าเป็นการเช่าไม่ควรใช้ค่าเช่าที่ต่ำเป็นเครื่องชี้ขาดในการเลือกทำเล เพราะร้านที่อยู่ในทำเลดีค่าเช่าสูงมักจะทำกำไรให้แก่ธุรกิจได้ดีกว่าและมียอดขายสูงกว่า แต่ถ้าประกอบการที่ไม่มีทุนมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าสูง ก็ควรเลือกทำเลที่ดีที่สุดที่จะหาได้ในราคาที่ตนสามารถที่จะจ่ายได้

          6. กฎหมายและภาษีท้องถิ่น การเลือกทำเลที่ตั้งควรศึกษาผังเมืองและชุมชน ตลอดจนการขยายและปรับปรุงสาธารณูปโภคในอนาคต เช่น เขตพื้นที่สีเขียวเพื่อการเกษตรกรรม มีข้อห้ามสร้างตึกสูงเกินกำหนด เป็นต้น ภาษีท้องถิ่นที่ต้องชำระแก่กรมสรรพากรมีทั้งภาษีโรงเรือนและภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งในแต่ละท้องที่จะมีการประเมินแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าเป็นเขตชุมชนธุรกิจหรือไม่

          7. ทัศนคติของชุมชน สัมพันธภาพอันดีระหว่างชุมชนกับธุรกิจจะทำให้การดำเนินงานทุกอย่างดำเนินไปได้ราบลื่น ธุรกิจขนาดย่อมที่มีภาพพจน์ที่ดีในการสร้างประโยชน์แก่ชุมชนในด้านการว่าจ้างแรงงาน การอุดหนุนสินค้าและบริการต่าง ๆ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน การบริจาคเงินเพื่อสาธารณกุศล การบำเพ็ญประโยชน์แก่สาธารณะ

          8. ความสามารถที่จะเป็นแหล่งทรัพยากรของธุรกิจ ธุรกิจบางแห่งจำเป็นต้องอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ เช่น การทำปลาตากแห้ง กุ้งแห้ง น้ำปลา ปลาเค็ม ควรอยู่ใกล้สะพานปลาธุรกิจบางแห่งต้องใช้แรงงานเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่นโรงงานทอผ้าไหมนิยมอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะชาวไทยอีสานมีฝีมือในการทอผ้าหรือทำหัตถกรรมตามประเพณีวัฒนธรรมที่สืบเนื่องกันมา"ก็อาจจะเลือกเวบไซต์ที่ผู้ใหญ่เล่น ไม่ใช้เวบที่วัยรุ่นเข้ามาคุยกัน เป็นต้น

แผนที่ THE MALL




ที่มา
http://www.mbalpru.com/article/article.pdf
http://th.wikipedia.org/wiki/เดอะมอลล์
http://www.soidb.com/th/bangkok/shop/department/mall5_thaphra.html